วันศุกร์ที่ 13 มีนาคม พ.ศ. 2558

การเลือกซื้อ เครื่องฉีดน้ำ เครื่องล้างรถ


เครื่องฉีดน้ำแรงดันสูง สิ่งที่เราต้องทบทวนอย่างแรกคือ การนำไปใช้งาน เพราะว่าเครื่องฉีดน้ำมีด้วย กันหลากหลายยี่ห้อ หลากหลายแรงดัน ตั้งแต่ 70 Bar 90 Bar 100 Bar 110 Bar 120 Bar จนถึง 200 Bar กันเลยทีเดียว นอกจากจะมีหลาก หลายแรงดันแล้ว ยังต้องดูเรื่องจำนวนการให้น้ำว่ากี่ลิตร/ชั่วโมง และรูปร่างของมอเตอร์ งบประมาณที่เราตั้งเอาไว้ในการที่จะเป็นเครื่องฉีดน้ำแรงดันสูง สักตัว  นอกจากนี้แล้วที่สำคัญที่สุดคือ การรับรองสินค้า (อันนี้สำคัญมาก)
อย่างที่พูดในข้างต้น ควรใช้ (Pressure) แรงดันเท่าไรดี ?
จากความชำนาญของการขายเครื่องล้างรถมาพอสมควร ผม มักจะสรุปได้ดังนี้ คือลูกค้ามักใช้เครื่องฉีดน้ำไปใช้งานไม่ตรงกับ ประเภทการใช้งานจริงๆ เนื่องมาจาก ซื้อเอาเพราะราคาเบาๆ ก็พอ คิดว่าไม่แตกต่างกัน สำหรับเครื่องมือช่างอื่นๆ ผมว่าพอทำได้  แต่เครื่องล้างรถเป็นข้อละเว้น มันเป็นเครื่องมือที่เกี่ยวข้องกับแรงดัน ทำให้เกิดความเสียหายได้ง่ายถ้าหาก  การผลิต และการ QC มาไม่ดีพอ (ก่อนอื่นต้องบอกก่อนว่า คนเขียนไม่มีนโยบายให้ลูกค้าต้องใช้ของแพง)

ผู้ใช้งานเครื่องล้างอัดฉีด ให้พิจารณาดังนี้ ว่าเราต้องการเอาไปล้างอะไร เช่นถ้าหากเอาไป ล้างรถยนต์ ล้างพื้นบ้าน(พื้นที่ไม่ใหญ่มาก) ให้พิจารณาเครื่องฉีดน้ำประมาณ  100-120 Bar ก็พอแล้ว เอาที่มีอัตราการใช้น้ำมากหน่อยลองเปรียบเทียบดู แล้วไปดูว่าลักษณะมอเตอร์เป็นระบบใด สำหรับเครื่องฉีดน้ำที่ให้แรงดันขนาดนี้จะมีมอเตอร์ให้เลือก 2 แบบด้วยกัน คือ universal Motor (มีแปรงถ่าน) และอีกชนิดคือ ชนิด  Induction Motor
     สำหรับเครื่องล้างอัดฉีดที่ใช้มอเตอร์ชนิด universal Motor นั้นมีข้อดีคือราคาถูก ข้อบกพร่องคือ จะมีความร้อนสะสมรวดเร็วทำให้ใช้งานต่อเนื่องยาวนานไม่ได้ ใช้ประมาณ 20-25 นาที ต้องพักโดยประมาณ 10-15 นาที และมีเสียงดังมาก ถ้าหากคุณใช้งานตามบ้าน ไม่ได้ใช้งานหนักก็ถือว่าเป็นทางเลือกที่ดี ราคาอยู่ประมาณ 2,xxx - 7,xxx บาท ขึ้นอยู่กับยี่ห้อ และ คุณภาพครับ
     สำหรับเครื่องล้างอัดฉีดที่ใช้มอเตอร์ชนิด Induction Motor เป็นมอเตอร์ความเร็วรอบต่ำ  ทำให้ความร้อนสะสมน้อย ทำให้ฉีดต่อเนื่องได้ยาวนาน เสียงเงียบ สำหรับผู้ใช้ตามบ้านที่เป็นห่วงเรื่องเสียงของเครื่องฉีดน้ำ ล้างรถ แนะนำให้ใช้เครื่องฉีดน้ำที่ใช้มอเตอร์ประเภทนี้ แต่จะต้องแลกมาด้วยค่าตัวของมัน ซึ่งแพงขึ้น มาหน่อย อยู่ราวๆ 6,xxx - 2x,xxxx บาท ขึ้นอยู่กับ ยี่ห้อ แหล่งผลิต วัสดุที่ใช้ในการผลิต และเทคโนโลยี ซึ่งเครื่องล้างอัดฉีดในกลุ่มนี้ มีเทคโนโลยีต่างกันมากมาย สำหรับเครื่องฉีดน้ำในกลุ่มนี้
 เพียงเท่านี้ ทุกท่านก็หน้าจะเลือกเครื่องล้างรถได้ตรงกับความปรารถนาแล้วนะครับ

วันอังคารที่ 10 มีนาคม พ.ศ. 2558

ใช้ปั๊มลมในธุริกิจอุตสาหกรรม

1. ปั๊มลมแบบลูกสูบ (PISTON COMPRESSOR)
เป็นเครื่องอัดลมหรือปั๊มลมที่นิยมใช้ถือว่าเป็นปั๊มลมที่ใช้กันมากเนื่องจากสมรรถนะอัดลม คือสร้างความดันหรือแรงดันได้ตั้งแต่ 1บาร์ (bar)ไล่ระดับไปจนถึงเป็นพันบาร์(bar) เป็นเหตุให้ปั๊มลมแบบลูกสูบทำได้ตั้งแต่ความดันต่ำ ความดันปานกลาง จนไปถึงความดันสูง มีแบบใช้สายพาน จะให้เสียงเงียบกว่าแบบ โรตารี่ ที่มีมอเตอร์ในตัว จุดเด่นของโรตารี่คือได้ลมใช้งานที่เร็วกว่าแบบสายพาน
2.ปั้มลมแบบสกรู (SCREW COMPRESSOR)
เป็นที่นิยมในโรงงาน ตัวเครื่องมีการผลิตที่มีคุณภาพสูงในการผลิตโรเตอร์ ตัวเครื่องจะ ไม่มีลิ้นในการเปิดปิด แต่ต้องการระบบถ่ายเทความร้อนที่ดีออกจากปั้มมีทั้งระบบระบายความร้อนด้วยอากาศหรือใช้น้ำระบายความร้อนหากเป็นเครื่องความจุใหญ่ ปั้มลมจะสามารถจ่ายลม 170 ลูกบาศก์เมตรต่อนาที (m3/min) อีกทั้งสร้างความดันได้ถึง 10 บาร์
3. เครื่องอัดลมหรือ ปั้มลมแบบไดอะเฟรม (DIAPHARGM COMPRESSOR)
เป็นปั๊มลมที่ใช้ตัวไดอะแฟรมทำให้การดำเนินการของลูกสูบและหัวดูดอากาศแยกออกจากกัน ดังนั้นลมที่ถูกดูดเขาในปั๊ม หรืออัดอากาศ จะไม่ได้มีการโดนหรือสัมผัสกับส่วนที่เป็นโลหะ และลมที่ได้จะไม่มีการผสมน้ำมันหล่อลื่นแต่จะไม่สามารถสร้างแรงดันได้สูง จุดเด่นคือลมที่ได้จากปั๊มประเภทนี้จึงมีความเสถียรมากและมักใช้ในอุตสาหกรรมอาหาร อุตสาหกรรมยา อุตสาหกรรมเคมี และอาจะใช้ในการอุสาหกรรมการเลี้ยงสัตว์น้ำเนื่องจากเสียงที่นุ่มนวลกว่าแบบลูกสูบ
4. เครื่องอัดลมหรือ ปั้มลมแบบใบพัดเลื่อน (SLIDING VANE ROTARY COMPRESSOR)
ราคาปั๊มลมชนิดนี้ข้อดีคือเสี่ยงจะไม่ดังการทำงานของการหมุนจะเรียบมีความต่อเนื่องการอัดอากาศคงที่ ไม่มีลิ้นหรือวาวล์ในการเปิดปิดในพื้นที่จำกัดทำให้ไวต่อความร้อน หากต้องการประสิทธิภาพที่ดีจะต้องผลิตด้วยความประณีต สามารถกระจายลม 4-100 ลูกบาศก์เมตรต่อนาที (m3/min) ส่วนความดันทำได้ที่ 4-10 บาร์(Bar)
5. ปั้มลมแบบใบพัดหมุน (ROOTS COMPRESSOR)
เครื่องปั๊มลมนี้จะมีใบพัดหมุน 2 ตัว เมื่อโรเตอร์ 2 ตัวทำการหมุน สภาพอากาศจะถูกดูดจากฝากหนึ่งไปยังอีกฝากหนึ่ง โดยไม่มีการเปลี่ยนแปลงความจุ ทำให้อากาศไม่ถูกบีบหรืออัดตัว แต่อากาศจะถูกอัดตัวก็ต่อเมื่ออากาศได้ถูกส่งเข้าไปยังถังเก็บลม ปั้มลมแบบนี้ทุนการผลิตจะแพง ไม่มีลิ้น ไม่ต้องการหล่อลื่นระหว่างที่ทำงาน แต่ต้องมีการระบายความร้อนที่ดี
6. ปั้มลมแบบกังหัน (RADIAL AND AXIAL FLOW COMPRESSOR)
ขายปั๊มลมปั้มลมแบบนี้จะได้อัตราการจ่ายลมที่มาก ลักษณะเป็นใบพัดกังหันดูดเข้ามาจากด้านหนึ่งไปสู่อีกด้านหนึ่งด้วยการหมุนความเร็วสูง ประเภทใบพัดจึงมีส่วนสำคัญเรื่องอัตราการจ่ายลมด้วย

วันศุกร์ที่ 27 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2558

ปั๊มน้ำบาดาลอุปโภคบริโภคและทำสวนทำเกษตร

ปั๊มน้ำบาดาล(Pump) เป็นวัสดุอุปกรณ์ที่ช่วยส่งผ่านพลังงานจากแหล่งแหล่งกำเนิดไปยังของเหลว เพื่อเป็นเหตุให้ของเหลวเคลื่อนจากตำแหน่งหนึ่งไปยังอีกตำแหน่งหนึ่งที่อยู่สูงกว่า หรือในระยะทางที่ไกลออกไป โดยจุดเริ่มของเครื่องปั๊มน้ำนี้มีประวัติศาสตร์ที่ยาวนานกว่า 2,000 ปีก่อนคริสตศักราช ซึ่งในช่วงแรกมีการใช้พลังงาน ที่ได้จากมนุษย์ สัตว์ หลังจากนั้นจึงได้ใช้พลังงานจากธรรมชาติ เช่น พลังงานจากลม และน้ำเป็นแหล่งจุดเริ่มต้น ซึ่งในระยะเริ่มต้นเพียง เพื่อที่จะการอุปโภคบริโภคและทำสวนอย่างเดียว

ปั๊มน้ำ ที่นิยมใช้ในบ้านโดยมากเป็นชนิดสำเร็จรูป ประกอบด้วย ตัวปั๊มและถังความดัน มีอยู่หลายรูปแบบ เช่น แบบที่เป็นตัวปั๊มยึดอยู่บนถังความดัน และมีฝาครอบที่เรียกว่า ปั๊มน้ำอัตโนมัติ ทั้งนี้เพราะปั๊มน้ำ ราคาถูก ตัวปั๊มจะควบคุมการทำงานด้วนสวิตซ์ความดัน (Pressure Switch) ซึ่งทำงานอัตโนมัติเมื่อมีการเปิดใช้น้ำในบ้าน ความดันในท่อจะลดลงจนถึงค่าที่ตั้งไว้ ปั๊มน้ำจะทำงานจ่ายน้ำเข้าเส้นท่อเมื่อหยุดหรือปิดเครื่องมือความดันจะเพิ่มสูงขึ้นจนถึงค่าที่ตั้งไว้ ปั๊มจะหยุดเครื่องปั๊มน้ำแบบนี้มักมีขนาดเล็ก ๆ จนถึงขนาดกลาง ถ้าเป็นบ้านหรืออาคารขนาดใหญ่ ต้องใช้ชุดเครื่องปั๊มน้ำแบบ Packaged Booster Pump Set ซึ่งจะจ่ายน้ำได้ในจำนวนสูง และเลือกความดันหลายระดับ แบ่งได้ 2 ประเภท คือ
1. ปั๊มน้ำอัตโนมัติ เหมาะสำหรับอาคาร ห้องแถว ทาวน์เฮ้าส์ อาคารบ้านเรือนเดี่ยว มีลักษณะเป็นระบบสวิตซ์เปิด-ปิดอัตโนมัติ ประหยัดไฟ มีกำลังส่งไปยังจุดต่าง ๆ
ภายในบ้านได้ดี สามารถต่อกับเครื่องทำน้ำอุ่น เครื่องซักผ้า หรือก๊อกน้ำได้
2. ปั๊มน้ำแรงดันคงที่ พอเหมาะสำหรับอาคารตึกแถว ทาวน์เฮ้าส์ บ้านเดี่ยว เป็นปั๊มอัตโนมัติควบคุมแรงดันคงที่ ให้น้ำสม่ำเสมอ เหมาะกับการติดตั้งใช้กับเครื่องทำน้ำอุ่น ที่สำคัญไม่เป็นสนิมตลอดอายุการใช้งาน


ปั๊มน้ำ การเลือกสรรซื้อปั๊มน้ำ
ถ้าเราจะเลือกสรรปั๊มน้ำสักตัวใช้งานให้เหมาะสมกับหัวสปริงเกอร์ที่ใช้งานหรือใช้งานทั่วไปแล้ว แล้วคำนวนราคาปั๊มน้ำตามแนวคิดจริงๆผมว่าชาวบ้านอย่างเราคงเป็นไปไม่ได้ที่จะเข้าใจและไม่มีวันเข้าใจ ตั้งแต่เห็นสูตรการคำนวนอันแรกแล้ว แต่ถึงเราไม่อยากดูสูตรที่ชวนตาลาย แต่ว่าเราก็จำเป็นต้องรู้ขั้นพื้นฐานต่างๆของปั๊มด้วยเช่น หน่วยวัดต่างๆที่ใช้กับปั๊มน้ำ , การดูตารางความสามารถของปั๊มน้ำ , แรงดันสูญเสียภายในท่อ, ไม่อย่างนั้นเราจะเป็นไปไม่ได้รู้วิถีทางการเลือกได้เลย ชนิดของเครื่องปั๊มน้ำก็มีอยู่หลายหลากให้เลือก ซึ่งผู้ใช้ก็ต้องคำนึงถึงการใช้งานของตนเอง โดยจำนวนมากก็แบ่งออกเป็นเครื่องปั๊มน้ำเพราะอาคารขนาดใหญ่หรือโรงงานอุตสาหกรรม และสำหรับบ้านเรือนทั่วไป ซึ่งตรงนี้จำเป็นจะต้องได้รับคำปรึกษาจากมืออาชีพก่อนจะตกลงใจซื้อ

ในสมัยนี้เครื่องปั๊มน้ำจัดเป็นวัสดุอุปกรณ์เครื่องไม้เครื่องมืออีกชนิดหนึ่งที่มีความยุ่งเกี่ยวกับชีวิตความเป็นอยู่ของคนอย่างมาก เป็นวัสดุอุปกรณ์ ที่ช่วยจัดส่งน้ำเพื่อการอุปโภค บริโภค การเกษตร กรมการติดต่อสื่อสาร อุตสาหกรรม ทั่วถึงกันจนการบำบัดน้ำเสีย เพื่อรักษา สภาวะแวดล้อม ที่ดีให้กับมนุษย์ ซึ่งวิวัฒนาการของเครื่องปั๊มน้ำในยุคปัจจุบันได้เปลี่ยนไปจากเดิม ที่ใช้พลังงานจาก แหล่งธรรมชาติมาเป็น การใช้พลังงานจากไอน้ำ จากเครื่องยนต์ และที่นิยมกันมากคือ การใช้พลังงานไฟฟ้า เพราะว่าความง่ายและง่ายต่อการใช้งานของประเภทงาน

วันพุธที่ 25 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2558

ปั๊มน้ำแบบต่างๆ และวิธีการเลือกซื้อปั๊มน้ำ ให้สมควรกับลักษณะงาน


"ปั๊มน้ำ" เป็นอีกหนึ่งอุปกรณ์ไฟฟ้าที่มีการซื้อขายกันมานาน และมีความก้าวหน้าด้านเทคโนโลยีอย่างต่อเนื่องเพื่อตอบสนองความสะดวกสบายในชีวิตประจำวันของผู้บริโภค

ปั๊มน้ำ เป็นส่วนใหญ่มีอยู่ 5 ตระกูล ได้แก่ ปั๊มน้ำอัตโนมัติ, ปั๊มน้ำกึ่งอัตโนมัติ, ปั๊มหอยโข่ง ปั๊มน้ำบาดาล และปั๊มจุ่มหรือปั๊มแช่ ซึ่งแต่ละชนิดจะมีลักษณะการใช้งานแตกต่างกันออกไป

ปั๊มน้ำอัตโนมัติ ควรสำหรับการใช้ภายในบ้าน คือ เมื่อมีการเปิดก๊อกน้ำ ปั๊มน้ำจะทำงาน พอเลิกใช้ปั๊มน้ำก็หยุดทำงาน สัดส่วนของปั๊มน้ำอัตโนมัติมีตั้งแต่ 100-400 วัตต์ สำหรับ 100–150 วัตต์

เหมาะกับบ้านที่มีผู้อาศัย 2-3 คน และ ขนาด 400 - 700 วัตต์ สำหรับครอบครัวใหญ่

ปั๊มจุ่มหรือปั๊มแช่ เหมาะสำหรับการดึงน้ำ เช่น ดึงน้ำท่วมบ้าน ดึงน้ำจากบ่อ ปั๊มจุ่มจะมีให้เลือกหลายขนาด ถ้าอยากได้ให้ดึงน้ำเร็วต้องใช้ตัวที่วัตต์สูง เช่น 200 -250 วัตต์ แต่ถ้าไม่อยากได้ดึงน้ำมากๆ ใช้

วัตต์น้อยๆ ก็จะประหยัดได้ด้วย ในการใช้งานติดต่อกันจะใช้ได้แค่ 7 ชั่วโมง ถ้าเกินจากนั้นปั๊มน้ำจะร้อนจัดทำให้มอเตอร์ตัดและใบพัดล็อค เราต้องถอดใบพัดออกมาหมุนกลับเข้าไปใหม่ ก็จะใช้งานได้

อย่างเดิม

ปั๊มหอยโข่ง เหมาะสำหรับกับการดึงน้ำเก็บใส่ถัง เหมือนที่ใช้ในการเกษตรคือส่งน้ำไปไกลๆ หรือดึงน้ำขึ้นไปบนอาคารสูงๆ ก็เพราะว่าปั๊มหอยโข่งจะมีแรงม้าสูง มี 1 แรงม้า 2 แรงม้า แต่ไม่เป็นระบบ

อัตโนมัติ ตัวนี้เหมาะกับการใช้งานติดต่อกันนานๆ

ปั๊มกึ่งอัตโนมัติ จะเหมือนๆ กับปั๊มอัตโนมัติ แต่เราต้องเปิด-ปิดสวิทช์ หรือเสียบปลั๊ก-ถอดปลั๊กใช้งานเอง ซึ่งไม่ค่อยเป็นที่นิยม ลูกค้าส่วนใหญ่จะนิยมแบบอัตโนมัติไปเลย

ปั๊มน้ำบาดาล เป็นปั๊มน้ำที่ดูดมาใช้ข้างในครัวเรือนหรือใช้ในการเกษตรกรรม

การเลือกปั๊มน้ำให้เหมาะสมกับงานจะช่วยประหยัดเงิน
การเลือกใช้ปั๊มน้ำนั้น สำหรับเครื่องมือช่างถ้าใช้ภายในบ้านเราต้องดูจากจำนวนผู้อยู่อาศัยว่าอยู่กันกี่คน เช่น ทาวเฮาส์ 2 ชั้น จะมีแค่ 2-3 ห้องน้ำ เลือกใช้ปั๊มขนาด 100-150 วัตต์ก็พอ หรือถ้าไม่มี

เครื่องทำน้ำอุ่น เลือกใช้แค่ 100 วัตต์ เราก็สามารถเปิดน้ำพร้อมกันได้ 2-3 จุด แต่ถ้าใช้เครื่องทำน้ำอุ่น ควรเพิ่มเป็น 150 วัตต์ เพราะจะช่วยเพิ่มแรงดันน้ำอุ่นหรือเมื่อเราเปิดก๊อกน้ำหลายจุดพร้อมกัน

แล้วถ้าเป็นลูกค้าบ้านเดี่ยวอยากแนะนำให้ใช้ปั๊มขนาด 200–250 วัตต์ เพราะจะเปิดพร้อมกันได้ถึง 5-6 จุด หรือถ้าติดเครื่องทำน้ำอุ่นถึง 3 ห้องน้ำ ขอแนะนำให้ใช้แบบ 250 วัตต์ เพราะจะดีตรงที่

ช่วยประหยัดไฟฟ้าได้เช่นกัน

อีกอย่างที่ช่วยให้ประหยัดไฟคือการเลือกใช้ฝักบัว ฝักบัวที่น้ำออกมาเป็นฝอยจะช่วยประหยัดน้ำ แต่ถ้าเป็นฝักบัวแบบที่เปิดแล้วน้ำออกมาเป็นสายอย่างนี้จะสิ้นเปลืองน้ำกว่า ไม่ประหยัดน้ำเพราะน้ำจะไหล

ออกมาเร็วเกินพอดี และกินไฟมากขึ้นเพราะมอเตอร์ปั๊มน้ำจะทำงานต่อเนื่องไม่ตัด ดังนั้นการที่เราเลือกฝักบัวหรือสายฉีดชำระที่มีความละเอียดเวลาน้ำออกมา มอเตอร์จะไม่ทำงานหนักเพราะตัดได้บ่อย

ไม่ทำงานสม่ำเสมอ แบบนี้จะดีในการเลือกใช้

การติดตั้งปั๊มน้ำอย่างถูกวิธีการช่วยประหยัดพลังงาน
ในการติดตั้งปั๊มน้ำ สำหรับเครื่องมือช่างช่างประปา ไม่แนะนำให้ติดตั้งแบบดึงตรง (by pass) แนะนำให้ต่อกับแท็งก์น้ำ (ติดตั้งแท็งก์น้ำเพิ่ม) แล้วให้ปั๊มดึงน้ำจากแท็งก์เข้าบ้านนี้จะช่วย

ประหยัดไฟกว่าเป็นพิเศษ อีกอย่างคือการติดตั้งแท็งก์น้ำจะช่วยให้น้ำใช้หรือน้ำฝักบัวของเราไม่มีตะกอน เพราะว่าเวลาที่น้ำเข้าแท็งก์ตัวตะกอนจะตกลงก้นแท็งก์ก่อน เวลาใช้ปั๊มดึงก็จะได้น้ำสะอาดออกมา

ทีนี้ก็ช่วยประหยัดน้ำ-ประหยัดไฟได้เยอะเลย...